2).การป้องกันและระงับอัคคีภัย เมื่อรู้ภยันตรายจากไฟไหม้แล้ว การป้องกันมิให้เกิด จะเป็นหนทางแรกที่ประชาชนทุกคน ควรเลือกปฏิบัติ ซึ่งการป้องกันนั้น มีหลักอยู่ว่า 1. กำจัดสาเหตุ 2. คุมเขตลุกลาม 3. ลดความสูญเสีย ป้องกันอย่าให้เกิด คือสิ่งประเสริฐสุด 2.1). กำจัดสาเหตุ สาเหตุแห่งอัคคีภัย 1.1 ประมาท ในการใช้เชื้อเพลิง การใช้ความร้อน การใช้ไฟฟ้า 1.2 อุบัติเหตุ ทั้งโดยธรรมชาติ และเกิดจากมนุษย์ 1.3 ติดต่อลุกลาม การนำความร้อน การพาความร้อน การแผ่รังสีความร้อน 1.4 ลุกไหม้ขึ้นเอง การทำปฏิกิริยาทางเคมี การหมักหมม อินทรีย์สารวางเพลิง ทั้งทางตรง และ ทางอ้อม 2.2). คุมเขตลุกลาม รีบระงับ ยับยั้งไฟ ด้วยการทำความเข้าใจในหลัก ตัวเลขรักษาชีวิต 3 4 6 เดินชิดขวา รักษาชีวิต เลข 3 คือ องค์ประกอบของไฟ Component of Fire
การป้องกันไฟ คือ การกำจัดองค์ประกอบขอไฟ การดับไฟ คือ การกำจัดองค์ประกอบของ ไฟ เช่นกัน วิธีการดับไฟ จึงมีอย่างน้อย 3 วิธี คือ 1. ทำให้อับอากาศ ขาดออกซิเจน 2. ตัดเชื้อเพลิง กำจัดเชื้อเพลิงให้หมดไป 3. ลดความร้อน ทำให้เย็นตัวลง * และการตัดปฏิกิริยาลูกโซ่ * |
||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เลข 4 คือ ประเภทของไฟ Classification of Fire ไฟมี 4 ประเภท คือ A B C D ซึ่งเป็นข้อกำหนดมาตรฐานสากล
|
||||||||||||
เลข 6 คือ เครื่องดับเพลิงแบบมือ Portable Fire Extinguishers เครื่องดับเพลิงแบบมือถือ (Portable Fire Extinguisher) หรืออาจเรียกว่าแบบยกหิ้ว มีประโยชน์ในการระงับไฟเบื้องต้น ไม่ควรฉีดถ้าไม่เห็นแสงไฟ เครื่องดับเพลิงมีมากกว่า 20 ชนิด แต่ควรรู้เป็นหลัก 6 ชนิด คือ
|
||||||||||||
การตรวจสอบแรงดันในถังดับเพลิง มาตรวัด (Pressure Gauge) เครื่องดับเพลิง ถ้ามีมาตรวัด (Pressure Gauge) ต้องดูที่เข็ม เข็มตั้งยังใช้ได้ เข็มเอียงซ้ายไม่ได้การ หากแรงดันไม่มี เข็มจะเอียงมาทางซ้าย ต้องรีบนำไปเติมแรงดันทันที อย่าติดตั้งไว้ให้คนเข้าใจผิด คิดว่ายังใช้ได้ การตรวจสอบนี้ควรเป็นหน้าที่ของผู้ที่ดูแลบริเวณที่ติดตั้งเครื่องดับเพลิงนั้นๆ ควรตรวจสอบอย่างน้อยเดือนละ 1ครั้งถ้าไม่มีมาตรวัด (Pressure Gauge) คือเครื่องดับเพลิงชนิด ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(ซีโอทู) ใช้วิธีชั่งน้ำหนักก๊าซที่อยู่ในถัง หาก ลดลงต่ำกว่า80 % ควรนำไปอัดเพิ่มเติม การบำรุงรักษาเครื่องดับเพลิง เครื่องดับเพลิงเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นอย่างยิ่ง จึงควรได้รับการดูแลเอาใจใส่ให้สามารถใช้งานได้อย่างมี ประสิทธิภาพในระยะยาวนาน ขั้นตอนที่สำคัญในการบำรุงรักษา คือ 1. อย่าติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงไว้ใอุณหภูมิสูง มีควาชื้น หรือเกิดความ สกปรกได้ง่าย เช่น ตากแดด ตากฝน ติดตั้งใกล้จุดกำเนิดความร้อนต่างๆ อาทิ หม้อต้มน้ำ เครื่องจักรที่มีความร้อนสูง เตาหุงต้ม ห้องอบต่างๆ เป็นต้น 2. ทำความสะอาดตัวถังและอุปกรณ์ประกอบ (สายฉีด,หัวฉีด)เป็นประจำ สม่ำเสมอ (อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง) เพื่อให้ดูดีมีระเบียบและพร้อมใช้งาน 3. หากเป็นเครื่องดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้ง ควรเคลื่อนผงเคมีที่บรรจุอยู่ภายใน โดยยกถังพลิกคว่ำ-พลิกหงาย 5-6 ครั้ง (จนแน่ใจว่าผงเคมีแห้งไม่จับตัวเป็นก้อน) อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง 4. ตรวจสอบสลากวิธีใช้ ป้ายบอกจุดติดตั้ง ป้าย แสดงกำหนดการบำรุงรักษา และผู้ตรวจสอบ (Maintenance Tag )ให้สามารถอ่านออกได้ชัดเจนตลอดเวลา หากท่านได้ตรวจสอบและบำรุงรักษาตามที่กล่าวมานี้แล้ว อุปกรณ์ของท่านจะมีอายุยืนยาว สามารถ ใช้ได้ไม่ต่ำกว่า 5 ปี หมายเหตุ ขอให้ระวังผู้ไม่หวังดี มาหลอกท่านเพื่อขอนำเครื่องดับเพลิงไปเติมแรงดัน หรือผงเคมีแห้ง โดยอ้างว่าเสื่อมสภาพ ท่านควรซื้อเครื่องดับเพลิงจากบริษัทขายเครื่องดับเพลิงที่รับประกันอย่างน้อย 5 ปี และในระยะเวลารับประกัน หากแรงดันในถังลดลง โดยที่ไม่มีการดึงสายรัดสลักนิรภัย (Safety Pin) ออก บริษัท ขายเครื่องดับเพลิงนั้นจะต้องทำการเติมแรงดันหรือผงเคมีให้ท่านโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย |
||||||||||||
การติดตั้งเครื่องดับเพลิง ให้ติดตั้งสูงจากพื้น โดยวัดถึงส่วนที่สูงที่สุดของเครื่องดับเพลิง ต้องไม่เกิน 140 ซม.สำหรับถังดับเพลิงขนาดเบาที่มีน้ำหนักรวมไม่เกิน 10 กก. เพื่อให้ทุกคนสามารถหยิบใช้ได้สะดวก และติดตั้งสูงไม่เกิน 90 ซม.สำหรับถังขนาดหนัก พร้อมติดตั้งป้ายชี้ตำแหน่งไว้เหนือเครื่องดับเพลิงเพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนในระยะไกล จากทุกมุมมอง และทั้งกลางวันและ กลางคืน เครื่องดับเพลิงทุกเครื่องที่ติดตั้งในประเทศไทย ต้องมีรายละเอียดเป็น ภาษาไทยด้วย และจะต้องมีป้ายระบุระยะเวลาการตรวจสอบบำรุงรักษา (Maintenance Tag) ที่เครื่องดับเพลิงทุกๆเครื่องด้วย ( ซึ่งกำหนดให้ตรวจสอบอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ) |